วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทความที่ 4 สายตาสั้นฟังทางนี้

บทความที่ 4 เรื่อง สายตาสั้นฟังทางนี้
กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                              รห้ส56010912100
 
 
 
สำหรับคนสายตาสั้นถ้าต้องใส่แว่นอยู่เป็นประจำ จนเสียบุคลิก ลองถนอมสายตาของคุณให้สามารถอยู่กับคุณไปนานๆ ดีกว่าไหมค่ะ ?
นิตยสาร ด้านสุขภาพของอเมริกานำเสนอวิธีช่วยบำบัดอาการสายตาสั้นให้ดีขึ้น  โดนยืนยันว่าหากคุณได้ลองนำไปปฏิบัติทุกๆวัน เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก็จะรู้สึกได้เลยว่าสายตาของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และนี่ก็คือหัวข้อแรกที่ว่าด้วยเรื่องการปรับเปลี่ยนนิสัย  เพื่อจะช่วยให้สายตาของคุณดีขึ้นค่ะ
  • สวมแว่นสายตาเมื่อจำเป็นเท่านั้น  พยายามอย่าสวมแว่นสายตาเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้สายตามจนเกินไป เพราะจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตา และระบบประสาทรอบดวงตาของคุณรู้สึกผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น
  • วิธีอ่านหนังสืออย่างถูกต้อง  คือ ควรถอดแว่นสายตาออกทุกครั้ง  แล้วพยายามอ่านหนังสือโดยที่ให้ตาทั้งสองข้างอยู่ห่างจากหนังสือมากที่สุด  แต่ต้องเป็นระยะที่สามารถอ่านหนังสือได้อย่างชัดเจน  หากทำจนเป็น นิสัยแล้ว  จะรู้สึกว่าคุณจะค่อยๆ สามารถอ่านหนังสือได้ห่างมากขึ้นไปเรื่อยๆ (สำหรับคนที่สายตาสั้นไม่เท่ากัน  ระยะห่างที่ชัดเจนของตาแต่ละข้างนั้นค่อนข้างจะต่างกัน ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือให้ใช้มือข้างใดก็ได้ปิดตาไว้ข้างหนึ่งแล้วค่อยๆ อ่านด้วยตาทีละข้างสลับกันไป แต่ถ้าสายตาต่างกันเพียงนิดเดียว อ่านพร้อมกันทั้งสองข้างเลยก็ได้
  • กะพริบตาให้บ่อยประมาณ 1 ครั้ง ต่อ 10 วินาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อตารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพราะการกระพริบตาน้อยลงสามารถให้น้ำตาที่หล่อเลี้ยงตาแห้งได้จนเกิดอาการระคายเคือกับตาของคุณเพียงเท่านี้คุณก็สามารถถนอมสายตาของคุณไปนานๆ
 
ที่มา : www.myhomeveg.com

บทความที่ 3 ชาร์จพลังให้สมองคุณดีกว่า

บทความเรื่อง ชาร์จพลังให้สมองคุณดีกว่า 
กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                              รห้ส56010912100


   การรักสุขภาพ หรือมีการแบ่งเวลาในการพักผ่อนให้กับตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดียิ่งถ้าวัน ไหนคุณต้องเจอกับงานที่อยู่บนโต๊ะหนักๆ ด้วยแล้ว การชาร์จพลังให้สมองจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

   นาย แพทย์สุวินัย บุศราคัมวงศ์ แพทย์อายุรกรรมสมอง โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ออกมาเตือนว่า สภาวะปัจจุบัน ถ้าเครียดสะสมนานๆ จะบ่อนทำลายร่างกาย ...
ซึ่ง ความเครียดบางทีก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เพื่อสลายความเครียดออกไป ต้องมีการรีเฟรซสมองด้วยวิธีง่ายๆ คือ ใน 1 วัน หาเวลาเป็นของเราเอง 1 ชั่วโมง ที่ไม่เกี่ยวกับงาน กับครอบครัว และทำอะไรก็ได้ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น โยคะ วาดรูป เล่นหมากรุก เป็นต้น

"การทำแบบนี้ ถือเป็นการชาร์จแบตตัวเองง่ายๆ" 

 นาย แพทย์สุวินัยแนะนำอีกว่า อีกวิธีหนึ่ง ให้หากิจกรรมที่ไม่ถนัดทำ ยกตัวอย่าง ใครทำงานสายวิทย์-คณิต ก็ลองหากิจกรรมสายศิลป์ทำ แต่ถ้าให้ทำงานสายศิลป์ ก็ให้หากิจกรรมที่เกี่ยวกับวิทย์-คณิตทำ เช่น ปกติทำงานเป็นนักบัญชี ก็ลองหากิจกรรมวาดรูป หรือเล่นดนตรีทำเป็นงานอดิเรก 

"วิธี การนี้เป็นการฝึกสมอง เพราะสมองคนเราจะใช้ส่วนที่ถนัดเป็นประจำ ทำให้สมองส่วนนั้นทำงานหนักไม่ได้พัก การทำแบบนี้จะเป็นการบาลานซ์สมอง ไม่อย่างนั้นจะสุดขั้วเกินไป ทำง่ายๆ อาจจะด้วยการเปลี่ยนเส้นทางเดินทางไปทำงาน เพราะการใช้เส้นทางเดิมๆ ตลอดจะทำให้เราไม่คิดแต่การเปลี่ยนเส้นทาง จะเป็นการระดมความคิดใหม่ ช่วยฝึกสมองให้คิดวิเคราะห์มากขึ้น"


 นาย แพทย์สุวินัยขยายความอีกว่า สมองซีกซ้าย เป็นส่วนของเหตุผล การคิดคำนวณ ส่วนซีกขวา เป็นส่วนของสุนทรียภาพ ศิลปะ แต่ถ้าคนเราใช้ซีกขวาอย่างเดียว ก็จะเป็นคนที่ใช้อารมณ์อย่างเดียว หรือถ้าใช้ซีกซ้ายอย่างเดียว ก็จะคิดตรง แข็ง ไม่ยืดหยุ่น ซึ่งจะทำให้อยู่ไม่ได้ในปัจจุบัน

 
    "ถ้าอยากหายเครียด ลองใช้สมองสองส่วนให้บาลานซ์กัน นอกจากคลายเครียดแล้ว ชีวิตก็จะมีความสุขขึ้น" หมอสุวินัยทิ้งท้าย"


ที่มา :http://www.108health.com  

บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

แบบฝึกหัด
บทที่8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม                     กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                               รหัส56010912100

คำชี้แจง  จงพิจารณากรรีศึกษานี้ 



1)“นาย Aทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเขาก็เลยนำโปรแกรมนี้ ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง”การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่  หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม คือ นาย B และนางสาว C ไม่ได้ทำการขออนุญาติ นาย A อย่างถูกกิจลักษณะ อาจทำให้นาย A เสียหายได้ และผิดกฎหมาย คือ  กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) สาระของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลของบุคคลไปใช้ในทางมิชอบ

2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตาราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายททำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J” การกระทำอยางนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบการกระทำนี้อาจกระทำขึ้นด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดความเสื่อมเสียถึงผู้ใด แต่การกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่น จึงเป็นการทำผิดจริยธรรมโดยตรง ทั้งการปลอมหลักฐาน และการหลอกลวง โดยไม่มีการทำการพิสูจน์ และยืนยันจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถและขาดความน่าเชื่อถือ อาจทำให้ตนเองหมดความน่าเวื่อถือไปด้วย 

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทที่7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

แบบฝึกหัด
บทที่7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ                                     กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                         รหัสวิชา56010912100

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้ 


1.หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ รูปแบบของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ถูกจัดตั้งอยู่บนเครือข่ายเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษความปลอดภัยให้เครือข่ายภายใน(Internet)โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion)ที่มาจากเครือข่ายภายนอก(Internet)หรือเป็นการกำหนดนโยบายกถึงระหว่าารควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่ายสองเครือข่ายโดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป แล้วแต่ระบบ 
  
2.จงอธิบายคำศัทพ์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm,virus computer,spy ware,adware  มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
ตอบ Worm เป็นไวรัสประเภทหนึ่งที่ก่อกวน สามารถทำสำเนาตัวเอง (copy) และแพร่กระจายไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นๆ ได้ ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว และในระบบเครือข่ายเสียหายไวรัส วอร์ม นี้ปัจจุบันมีหลากหลายมาก มีการแพร่กระจายของไวรัสได้รวดเร็วมาก ทั้งนี้เนื่องจากไวรัส วอร์ม จะสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook

3.ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ 
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ Application viruses และ System viruses

4.ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
ตอบ  1. ลงโปรแกรมป้องกัน ไวรัส และพยายาม update เพื่อป้องกัน ไวรัส ตัวใหม่ๆ 
2.ไม่เปิด E-mail ที่มีไฟล์แนบที่มีนามสกุลที่ไม่รู้จักหรือนามสกุลที่สามารถ run ได้ ไม่ว่าจะส่งมาจากบุคคลที่รู้จักหรือไม่ก็ตาม เช่น exe, .com, .bat, vbs, .scr, txt.exe , .doc.exe , .xls.exe เป็นต้น
3. สำหรับผู้ที่ต่อเครือข่ายหากมีความจำเป็นต้องใช้ Printer หรือ files ร่วมกัน 
4.ในการเปิดดู Mail ผ่าน Website เช่น Hotmail, Yahoo, Thaimail เป็นต้น กรุณาปฎิบัติตามข้อ 2
5.นการลงโปรแกรมจากแผ่น CD ที่ไม่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์อาจจะมี ไวรัส แฝงติดเข้ามาด้วย ซึ่งสามารถตรวจไวรัสจากแผ่น CD โดยใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสได้

 5.มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอเน็ตที่เหมาะสมกับสังคม
ปัจจุบันได้แก่
 ตอบ   1. กฏหมายคุ้มครองข้องมูลส่วนบุคคล
        2. กฏหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
        3. กฏหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
        4. กฏหมายการแลกเปลี่ยนข้อมูงทางอิเล็กทอนิกส์
        5. กฏหมายลายมือชื่ออิเล็กทอนิกส์
        6. กฏหมายการโอนเงินทางอิเล็กทอนิกส์
        7. กฏหมายโทลคมนาคม
        8. กฏหมายระหว่างประเทศ
        9. กฏหมายืั้เกี่ยวเนื่องกับระบบอินเตอร์เน็ต
       10. กฏหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทอนิกส์และคอมพิวเตอร์



วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทที่6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัด
บทที่6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน                       กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                              รห้ส56010912100

คำชี้แจง  จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1.การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
ตอบ 1.เทคโนโลยีสารสนเทศ


2.เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้ารการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
ตอบ2.ระบบการเรียนการสอนทางไกล
    
3.การฝากถอนผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
ตอบ 1.ระบบอัตโนมัติ
     
4.ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
 ตอบ 4.ถูกทุกข้อ

5.เทศโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
 ตอบ3.การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
     

6.เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
 ตอบ  3.คอมพิวเตอร์
      
7.ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
ตอบ1.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน?
     
8.ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
 ตอบ1.เครื่องถ่ายเอกสาร
    
9.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
ตอบ 3.ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลคอมพิวเตร์
      
10.ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนพเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
ตอบ4.ถูกทุกข้อ

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บบที่ 5 การจัดการสารสนเทศ

แบบฝึกหัด
บทที่5 การจัดการสารสนเทศ                                                     กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                              รหัส56010912100

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้ 

1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
ตอบ  การผลิต การจัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในจัดการสารสนเทศ

2.การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร 
ตอบ1.) ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ
2.) ความสำคัญด้านการดำเนินงาน
3.) ความสำคัญด้านกฎหมาย

3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง 
ตอบ การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไป แบ่งอย่างกว้างๆ
ได้เป็น 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์


4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างน้อย 3 อย่าง
ตอบ 1.การจัดการเงินในการใช้จ่ายซื้ออาหาร ข้าวของเครื่องใช้ในแต่ละวัน
          2.การจัดการแบ่งเวลาในการเรียน การพักผ่อน และทำกิจวัตรประจำวันในแต่ละวัน
          3.การจัดการในเรื่องของควบคุมอาหารเพื่อสุขภาพและออกกำลังกายในแต่ละวัน
          4.การจัดการในเรื่องความสะอาดของห้องพัก ดูแลให้สะอาดเเละเรียบร้อยเพื่อสุขอนามัยในแต่ละวันตามเวลาว่ามีมากหรือน้อย
          5.การจัดการในเรื่องของเสื้อผ้าว่าจะต้องทำความสะอาดและรีด พับ เก็บให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกในการสวมใส่ในแต่วันที่จะต้องทำกิจกรรมแตก ต่างกันออกไป

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทความที่ 2 1234 รหัสสุดเสี่ยง

บทความเรื่อง 1234 รหัสสุดเสี่ยง
กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                    รหัสวิชา0026008
ชื่อ-สกุล  นางสาวเพชรรัตน์  วงษ์คาร                                              รห้ส56010912100


 ดาต้าเจเนติคส์เผยผลสำรวจพบเจ้าของบัตรเอทีเอ็ม-อุปกรณ์สื่อสารมักตั้งรหัสใช้งานที่เดาได้ง่าย พบอันดับ1คือรหัส 1234

การ ตั้งรหัส 4 ตัว ของบัตรเอทีเอ็มหรืออุปกรณ์สื่อสารนับได้ว่าเป็นความลับสุดยอดของแต่ละบุคคล เลยทีเดียว แต่ผลสำรวจของดาต้าเจเนติคส์ ที่วิเคราะห์จากรหัสสี่ตัว 3.4 ล้านรหัส กลับระบุว่า การตั้งรหัสของแต่ละคนนั้นกลับเป็นเลขที่จำง่ายๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการคาดเดาของบรรดาโจรเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับ รหัสยอดฮิตที่มาเป็นอันดับ 1 ก็คือ 1234 โดยมีคนที่ใช้รหัสนี้ถึง 11% เลยทีเดียว ในขณะที่อันดับที่ 2 ได้แก่ 1111 มีผู้ใช้ถึง 6% ส่วนอันดับที่ 3 คือ 0000 มีผู้ใช้ 2%
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า รหัสที่ถูกใช้น้อยที่สุดก็คือ 8068 เพราะมีผู้ใช้เพียง 25 คน จากข้อมูลทั้งหมด 3.4 ล้านรหัส
นอก จากนี้ ดาต้าเจเนติคส์ยังระบุอีกว่า 10% ของรหัสที่พิมพ์เข้าไปนั้น สามารถเดาถูกได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยทีเดียว โดยหลายคนก็ใช้ปีเกิดในการตั้งรหัสอีกด้วย ซึ่งรายงานระบุว่ายิ่งทำให้โจรสามารถเดาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากจะสามารถคาดเดารหัสได้จากอายุที่ระบุตามเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวได้ทำให้เลข 1 กลายเป็นเลขตัวแรกที่คนนิยมใช้มากที่สุดอีกด้วย
เห็น แบบนี้แล้ว ขอบอกว่าใครที่ตั้งรหัสสี่ตัวตามอย่างที่กล่าวมาทั้งหมด แนะนำให้เปลี่ยนเสียจะดีกว่า มิฉะนั้นแล้วจะตกเป็นเหยื่อของโจรเอาได้ง่ายๆ

ที่มา :  http://variety.teenee.com